นี่คือรถยนต์ที่ออกแบบโดย สุภาพสตรีนามว่า Chika Kako ซึ่งเป็น สุภาพสตรีท่านแรกที่ Toyota-Lexus ได้ทำการแต่งตั้งให้เธอเป็น Chief Engineer ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลโครงการพัฒนาและต่อยอดเจ้า Lexus UX 250h Luxury รุ่นนี้ทั้งหมด และตัวเธอเองก็ได้รับคำชมอยู่บ้างเรื่องของการออกแบบตัวรถให้มีความทันสมัยและมีรูปทรงที่สวยงามเเถมยังแอบแขวงไปด้วยความสง่างาม เหมือนผู้หญิงที่สวยงามและเพี่ยบพร้อมไปทุกอย่าง อะไรประมาณนั้น การออกแบบและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในตำแหน่งง่ายต่อการใช้ทั้งสวิตช์ควบคุมจอกลาง สวิตช์เครื่องปรับอากาศ การวางตำแหน่งเบาะ/พวงมาลัย
และในด้านการขับขี่ Lexus UX 250h Luxury ได้ทำเหมือน C-HR Hybrid ที่ราคาสูงขึ้น และ ดีขึ้น ในเรื่องช่วงล่างผมว่า C-HR ทำออกมาได้ดีในระดับนึงแล้วนะ แต่เจ้า UX 250h คันนี้ ยิ่งทำได้ดีกว่า ช็อคอัพ และ สปริงถูกเลือกมาอย่างเหมาะสมและลงตัว ทำให้ได้ทั้งความนุ่มนวลและสามารถเก็บรอยต่อของถนนได้อย่างไร้ที่ติ การทรงตัวที่ความเร็วสูง และ การโยกเปลี่ยนเลนอย่างรุนแรง ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม ที่ดียิ่งขึ่น ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ยางติดรถมาคือ Primacy 4 ซึ่งเน้นนุ่มเงียบ มากกว่าการเข้าโค้ง ทำให้เมื่อเข้าโค้งแรงๆจึงมีอาการหน้าดิ้นๆเล็กน้อย
เรื่องอัตราการเร่งของ UX 250h ถือว่าตอบสนองได้ดีเลยครับ เมื่อกระแทกคันเร่งที่ 0-100 km/h ทำเวลาได้ไม่เกิน 10 วินาที ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้ขับขี่มีความสึกกระชุ่มกระชวยและสนุกสนานไปกับการควบเจ้าคันนี้ ซึ่งถ้าเปรี่ยบเที่ยบกับ C-HR Hybrid บอกเลยคนละเรื่องเลยครับ เพราะเจ้า C-HR Hybrid เมื่อลองขับแล้วให้ความรู้สึกที่จืดชืด และจะอึดอัดไปหน่อย ในเรื่องอัดตราการเร่ง การทำงานของแป้นเบรก ก็ถือว่าเป็นธรรมชาติมากอันดับเเรกๆของรถประเภท Hybrid สามารถคาดเดาการจับผ้าเบรกได้ง่าย
สิ่งที่น่าประทับใจเป็นในระดับนึงคือ ภายในห้องโดยสาร แม้จะฉีกแนวไปจาก Lexus หลายๆรุ่นในค่าย ซึ่งแฟนตัวยง Lexus อาจจะเห็นแล้วแปลกตา เรื่องที่โดดเด่นสุดๆเห็นจะเป็นการเลือกใช้วัสดุตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหนังที่ใช้ การกัดลายของผิววัสดุบนแผงแดชบอร์ดหน้า มันเหนือกว่าคู่แข่งใน Segment เดียวกันทั้งหมด ในหลายๆ รุ่น
Entertainment ระบบความบันเทิง
: เครื่องเสียง วิทยุ AM FM CD DVD
: หน้าจอกลาง สั่งงานแบบ EMV ขนาด 7.0 นิ้ว
: สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
: ปุ่มควบคุมกลาง Remote Touch Interface
: ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
: ช่องเชื่อมต่อ AUX
: ช่องเชื่อมต่อ USB
: ลำโพง 6 ตำแหน่ง
Safety ระบบความปลอดภัย
: ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
: ระบบกระจายแรงเบรก EBD
: ระบบเสริมแรงเบรก BA
: ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ VSC
: ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
: ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
: ระบบช่วยจอด Parking Assist System
: ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Warning
: ระบบป้องกันการบาดเจ็บบริเวณกระดูกต้นคอเมื่อถูกชนด้านหลัง WIL
: ถุงลมนิรภัยคู่หน้า แบบ Dual Stage – Twin Chamber
: ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า
: ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หลัง
: ม่านถุงลมนิรภัย
: ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
: กล้องมองภาพขณะถอยจอด
: จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
: ระบบกุญแจ Immobilizer
: ระบบสัญญาณกันขโมย
ส่วนที่เป็นจุดอ่อนสำคัญของตัวรถคือ การโฟกัสรูปทรงที่เน้นความเป็นสปอร์ตมาก จนไม่เหลือความอเนกประสงค์ เนื้อที่ภายใน แม้กระทั่งส่วนเบาะหน้าก็โดนแผงประตูกับคอนโซลเบียด มากไปหน่อย!
ติดตามข่าวรถยนต์ ได้ที่ thaicarnews.com
