All NEW Mercedes AMG C63
พบกับ Mercedes-AMG C63 และเจ้าคันได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 2007 ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลังเครื่อง V8 ที่ใช้กันมาตลอด จนถึงปัจจุบันก็ยังใช้ขุมพลังเครื่อง V8 อยู่นั้น แต่คาดการณ์ว่าเจ้าตัว All NEW Mercedes-AMG C63 จะหันไปครบกับเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ Hybrid มากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคู่แข่งอย่าง BMW M3 และ Audi RS 4 ที่เคยใช้ระบบเครื่องยนต์ V8 ก็ได้หันไปใช้เครื่องยนต์ 6 สูบกันหมดแล้วด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ค่ายรถยนต์ดาวสามแฉก อาจนำขุมพลัง 4 สูบ เทอร์โบ รหัส M139 ของ Mercedes-AMG A45 รุ่นปัจจุบัน มาผสมผสานเข้ากับระบบไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ EQ Boost พร้อมปรับแต่งใหม่ให้มีพละกำลัง ไม่น้อยหน้ากว่ารุ่นปัจจุบันที่มีอยู่ 503 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดอาจแตะอยู่ที่ระดับ 750 นิวตันเมตร เรียกได้ว่าถึงจะลดขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลงแต่ยังคงความแรงไว้เช่นเคย
ในด้านประโยชน์ของการลดขนาดเครื่องยนต์ลงคือ ทำให้น้ำหนักที่ลดลงโดยขุมพลัง V8 รหัส M177 ในปัจจุบันหนักมากกว่าขุมพลัง 4 สูบ รหัส M139 อยู่ที่ 48.5 กิโลกรัม ซึ่งต่อให้รวมมอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ Lithium-ion และ ระบบที่เกี่ยวข้องกับ EQ Boost แล้ว น้ำหนักยังคงเบากว่ารุ่น V8 อยู่ดี ซึ่งนี่จะทำให้ Mercedes-AMG C63 รุ่นถัดไป มีน้ำหนักที่เพลาหน้าลดลง และช่วยให้ปรับจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงกว่าเดิม นำไปสู่การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมขึ้นนั่นเองครับ
นอกจากนั้น Mercedes-AMG C63 รุ่นถัดไป อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง จากระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นเดียวกับลูกพี่ใหญ่ อย่าง Mercedes-AMG E63 แถมยังอาจจะใส่่ลูกเล่น Drift Mode ที่เอาไว้ปรับเปลี่ยนกำลังส่่งลงสู่ล้อคู่หลังอย่างเดียว ในช่วงเวลาที่ต้องการ ซึ่งเกียวพันกับคำให้สัมภาษณ์ของ บิ๊กบอสใหญ่ จาก AMG ที่เคยระบุเอาไว้ว่า ระบบส่งกำลังดังที่กล่าวมานั้นจะถูกนำมาติดตั้งในรถยนต์ตระกูล AMG มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าต้องการระบบ AWD มากกว่า
เป็นที่คาดว่า Mercedes-AMG C63 รุ่นถัดไป ที่จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2022 โดยจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งตัว 4 ประตู Saloon และตัว 2 ประตู หลังคาแข็งแบบ Coupé และ 2 ประตู แบบเปิดประทุน Convertible ส่วนรุ่นน้องในรหัส C43 จะมีให้เลือกครบทุกแบบในที่กล่าวมา แถมยังมีเพิ่มเติมอีกทางเลือกนึงคือตัว 5 ประตู Estate
ติดตามข่าวรถยนต์ ได้ที่ ThaiCarNews.Com
