6 เรื่อง เบรกรถยนต์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !!!

6 เรื่อง เบรกรถยนต์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !!!

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เบรกรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก ต่อการใช้รถใช้ถนนของพวกเรา แต่น่าแปลกที่เรากลับละเลยหรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกมันมากมายเลยก็ว่าได้
1.ผ้าเบรกทนความร้อนสูงดีกว่า?
เชื่อว่าหลายคนเวลาจะเปลี่ยนผ้าเบรกก็คงคิดว่ ผ้าเบรก ทนความร้อนสูง อาจจำเป็นต่อการใช้งานของเรา โดยเฉพาะใครที่ขับรถเร็วหรือใช้บนทางขึ้นลงเขาบ่อย โดยมากก็จะพิจารณาเปลี่ยนผ้าเบรก ทนความร้อนสูงเมื่อมีโอกาส ใช่ผ้าเบรกที่มีประสิทธิภาพทนความร้อนสูงอาจทนต่อการใช้งานขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่าหัวใจสำคัญของเบรกรถยนต์คือการเสียดสี และความร้อนเกิดขึ้นเมื่อเสียดสี ถ้าแทนที่เราจะอัพผ้าเบรกให้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพียงอย่างเดียว มันอาจไม่ได้ช่วยอะไรนักในความเป็นจริง ถ้ายังใช้จานเบรกแบบเดิมอยู่ การระบายความร้อนยังเท่าเดิมไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ถึงผ้าเบรกทนได้มากขึ้นก็จะทำให้จานเบรกฮีทได้

2.น้ำมันเบรก ไม่ต้องเปลี่ยน?
น้ำมันเบรกเป็นสิ่งสำคัญของระบบเบรกเสมอ เนื่องจากระบบเบรกปัจจุบัน อาศัยแรงดันการในการทำงานดันผ้าเบรก จนเกิดการเสียดสีลดความเร็วเกิดขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไป น้ำมันเบรกจะดูดความชื้นในอากาศเอาไว้ในน้ำมัน ทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรกต่ำลงกว่าที่เคลมเอาไว้ ถึงน้ำมันเบรกจะไม่ได้สัมผัสผ้าเบรกโดยตรง แต่ตัวสูบเบรกที่ถูกดันโดยแรงน้ำมันสามารถถ่ายเทความร้อนได้ มันคงไม่ดีแน่ถ้าน้ำมันเบรกเดือด เพราะจะทำให้เบรกเฟด ดังนั้นถ้ามีโอกาส แนะนำว่าให้เปลี่ยนน้ำมันเบรกสม่ำเสมอ ทุกๆ ครั้ง ที่เปลี่ยนผ้าเบรก เผื่อให้ได้ค่าทนความร้อนดีที่สุด (โดยมามากเบรกจะเปลี่ยนทุก 20,000-30,000 ก.ม. แล้วแต่สภาพการใช้งาน)

3.จานเบรกเซาะร่อง เจาะรู เบรกดีกว่า
จานเบรก เซาะร่อง , เจาะรู เบรกมีประสิทธิภาพกว่าจานเบรกปกติ เนื่องจากความสามารถในการระบายความร้อนของตัวจานเบรกที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เวลาเราเบรกหนักๆ เมื่อใช้ความเร้ว หรือ จำเป็นต้องใช้เบรกอย่างต่อเนื่อ งผ้าเบรกจะไม่ไหม้ และไม่เฟดเวลาทำงาน

เมื่อถามต่อไปว่า แสดงว่า เมื่อเทียบกับการใช้ผ้าเบรกประสิทธิภาพสูง กับ จานเดิม กับผ้าเบรกเดิม จานเซาะร่องเจาะรู แบบหลังน่าจะมีประสิทธิภาพกว่า คุณอูรี่ไม่ได้ฟันธงอย่างชัดเจน เพียงแต่กล่าวว่า การระบายความร้อนที่ดีของจานเจาะรู ทำให้ ความร้อนจากการเสียดสีของผ้าเบรกกับจานลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

4.ปั้มเบรกไม่ต้องดูแลเลยตลอดอายุการใช้งาน

มีผู้สันทัดกรณีท่านหนึ่งเคยบอกว่า ในชุดปั้มเบรก จะมีสปริงกดอยู่ที่ตัวแม่ปั้ม ซึ่งจากการทำงานทางด้านเบรกมายาวนาน เขายอมรับว่าชิ้นส่วนจิ๋ว ที่เราใช้ในการเบรกตลอดเวลากลับถูกละเลย เนื่องจากคิดว่ามันจะทำงานได้ดี แม้เวลาผ่านไปยาวนาน ทั้งที่กาลเวลา ครอบฝุ่น รวมถึง ความอ่อนล้าในการใช้งาน อาจทำให้ สปริงเบรกจำเป็นต้องเปลี่ยน เพียงแต่ไม่ได้มีระยะเวลากำหนดชัดเจน เป็นระยะทางว่าจะต้องเปลี่ยนเมื่อไร จึงมักถูกละเลย นี่อาจเป็นความเข้าใจ ผิด

5.อุปกรณ์ที่เสียหายบ่อยไม่ได้มีแค่ผ้าเบรก
เวลารถเบรกไม่ดี เราก็มักจะโทษว่า ผ้าเบรกจะหมด ผู้สันทัดกรณี ชี้ว่า ไม่ได้มีแค่ผ้าเบรกเท่านั้น ที่เสียหายจากกการใช้นานๆ เพราะยังมีชิ้นส่วนอื่นๆ ที่มักเสียบ่อย และมีปัจจัยสำคัญมากกว่าผ้าเบรก

ยกตัวอย่างเช่น หม้อลมเบรก ตัวอุปกรณ์ไดอะแฟรมในหม้อลมเบรก นี้สามารถเสียหายได้ ในระยะยาว เนื่องจากทำงานบ่อยครั้ง เช่นเดียวกันกับปั้มเบรก (ปั้มบน) และอย่างที่กล่าวไปตัวสปริงเบรกที่ปั้มล่าง รวมถึงตัวสลักเบรก เองก็มีความสำคัญ

6.จานเบรกไม่ได้ใช้ได้ตลอดกาล
มีความเชื่ออย่างผิดๆ ว่าจานเบรก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน สามารถใช้ได้เรื่อยๆ จนรถอายุเกิน 10 ปี บางคันไม่เคยเปลี่ยนจานเบรกเลยสักครั้ง

ผู้สันทัดกรณี ยืนยันว่า นี่คือความเข้าใจ ผิด เนื่องจากการทำงานของผ้าเบรก คือวิธีการเสียดสีกับจานเบรก ทำให้เนื้อจานเบรกจะค่อยๆ บางลง ยิ่งผ้าเบรกประเภททนความร้อนสูง ถ้า ไม่ได้เปลี่ยนจานเบรกจะยิ่งกินจานหนักมาก จนจากการสำรวจของ TRW พบว่า รถส่วนใหญ่มีจานเบรกหนาเพียง 0-2 มม. ซึ่งถือว่าอยูในระดับอันตรายต่อการใช้งาน และสมควรเปลี่ยน

และความเป็นจริงแล้วตามหลักวิศวกรรมเบรก ทีมวิศวกรออกแบบให้ผ้าเบรก 1 ชุด ทำงานและมีอายุการใช้งานเท่ากับจานเบรก 1 ชุด หรือ กล่าวว่าเปลี่ยนผ้าเบรก ต้องเปลี่ยนจานพร้อมกัน

เป็นอย่าไงรบ้างครับ จะเห็นได้ว่ามีเรื่องหน้ารู้เกี่ยวกับเบรกมากมายที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน และวันนี้เรายืนยันว่าเบรกมีความสำคัญมากพอๆกับชิ้นส่วนอื่นๆ ในรถยนต์ ยังไง ก็อย่าลืม ตรวจสอบกันด้วยนะครับ
ทีมงาน ThaiCarNews.Com ผู้ให้บริการเว็บไซต์ข้อมุลข่าวสารยานยนต์ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทั้งจากในไทยและต่างประเทศ พร้อม รีวิว และข้อมูลความรู้ต่างๆ มากมาย

แสดงความคิดเห็น