คุณรู้กันหรือไม่ว่าถุงลมนิรภัยของรถยนต์นั้นมันทำงานกันยังไง?

คุณรู้กันหรือไม่ว่าถุงลมนิรภัยของรถยนต์นั้นมันทำงานกันยังไง?

สวัสดีครับแฟนเพจทุกๆท่าน และในวันนี้ผมและทีมงาน ThaiCarNews.Com จะพาทุกๆท่านไปติดตามเรื่องของ “เคล็ดลับยานยนต์” และผมจะพาทุกๆท่านไปดูหลักการทำงานของ “ถุงลมนิรภัย” หรือ”Air bag” ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกันดี เพื่อให้ทราบถึงหลักการทำงานของมันว่ามันทำงานกันอย่างไร ไปชมกันเลยครับ!

และถ้าไม่รวมถึงรถรุ่นเก่าหรือรถราคาถูกๆแล้ว รถรุ่นใหม่ๆทุกชนิดต่างได้ทำการติดตั้งถุงลมนิรภัยมาจากทางโรงงานกันทั้งนั้น และมีตั้งแต่ 1 จุด ขึ้นไป ในรถกระบะรุ่นปกติ ไปจนถึงรถราคาสูงๆ ที่มีมากกว่า 6 จุดด้วยกัน เป็นที่ทราบกันดีว่าเจ้าถุงลมนี้จะช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบกลไลการทำงานของมัน ถุงลมนิรภัยจะทำงานเมื่อไหร่ หรือแค่ทุบตรงจุดติดตั้งก็พองออกมา วันนี้เราจะมาให้คำตอบให้แก่พวกคุณเอง

ถุงลมนิรภัย” หรือ”Air bag” ในรถยนต์ ทำมาจากผ้าที่มีน้ำหนักเบาและยังมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นสูง สามารถพองตัวในทิศทางที่กำหนดได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละค่ายว่าจะเลือกใช้วัสดุผ้าแบบใด

ระบบการทำงานของภุงลมนิรภัยจะประสานกับหลายจุดด้วยกัน เพื่อประเมินความรุนแรงและสั่งการให้ถุงลมพองตัวออกมา โดยหลักก็จะมี “ตัวตรวจจับการชน” ซึ่งมักติดตั้งที่บริเวณกันชนหน้า กันชนหลัง และด้านข้าง เมื่อมีการชนเกิดขึ้น ตัว ACU (Air bag Control Unit ) จะทำการประเมินผลของแรงกระแทกบวกกับความเร็วและเบรก เพื่อประมวลค่าระดับความรุนแรง และถ้าเห็นว่าอยู่ในระดับที่อันตรายตัว “ตัวตรวจจับการชน” ก็จะส่งสัญญาณความร้อนไปที่ตัวบรรจุโซเดียมเอไซด์ (sodium azide, NaN3) เพื่อให้เกิดปฏิกิริยากลายเป็นแก๊สไนโตรเจนและทำให้ถุงลมพองตัวในที่สุด โดยขั้นตอนต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นเพียง 0.04 วินาทีเท่านั้น หลังเกิดเหตุแล้วถุงลมก็จะพองตัวเองในอัตโนมัติโดยแรงดันแก๊สในถุงลมจะถูกปล่อยออกมา เพื่อให้คนในรถได้ออกมาอย่างสะดวกและรวดเร็วแถมยังไม่ขัดขวางการช่วยเหลือคนในรถ แต่ถ้าระบบประมวลผลแล้วว่าไม่อันตรายต่อผู้ที่อยู่ในรถ เช่น แรงทุบเบาๆที่จุดติดตั้ง ตัวถุงลมนิรภัยก็จะไม่พองตัวออกมาครับ

และจะเห็นได้ว่า การทำงานของถุงลมนิรภัยนี้ได้มีการคำนวนค่าต่างๆให้ระบบทุกส่วนทำงานอย่างสอดคล้องกันและสัมพันธ์กัน เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยอย่างสูงสุด และการติดตั้งถุงลมนิรภัยจึงเป็นสิ่งที่สมควรกระทำอย่างยิ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์และการใช้งานของเราด้วย แต่อย่างน้อยที่สุดควรติดตั้งสัก 2 จุด ในบริเวณที่นั่งด้านหน้าฝั่งซ้ายและฝั่งคนขับ และตัวผู้ขับขี่เองก็ต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรักด้วย

ติดตามข่าวรถยนต์และเคล็ดลับต่างๆ ได้ที่ ThaiCarNews.Com

แสดงความคิดเห็น